การป้องกันตนเองจากโรคระบาดโควิด19ที่ดีที่สุด คือ การรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยนิสัยการดื่มน้ำ เมื่อเราได้ศึกษาเรื่องนิสัยการดื่มน้ำกันไปพอสมควรแล้ว นิสัยรักสุขภาพต่อไปก็คือ
นิสัยการขับถ่ายปัสสาวะ
สิ่งที่ไม่ควรให้เกิดเป็นนิสัยเลย
นั่นคือนิสัยการอั้นปัสสาวะและอั้นอุจจาระ ซึ่งเป็นนิสัยบั่นทอนสุขภาพ
ผลเสียของการอั้นปัสสาวะนาน
ๆ
ใครที่อั้นปัสสาวะจนมีความรู้สึกว่าหายปวด
อย่าเข้าใจผิด คิดว่าร่างกายของเราแข็งแรง เพราะสภาวะเช่นนั้น
กำลังก่อความพินาศให้กับร่างกายของเรา นับตั้งแต่กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
โลหิตพิการ ตับร้อน ไตร้อน โรคภูมิแพ้ กลิ่นตัว แรง นิ่ว กระเพาะปัสสาวะเกร็ง เป็นต้น
รวมไปถึงทำให้ผลของการปฏิบัติธรรมไม่ก้าวหน้าอีกด้วย
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
ผลของการอั้นปัสสาวะ
ทำให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบและอาการเบื้องต้น ก็คือ เวลาปัสสาวะจนรู้สึกว่าหมดแล้ว
แต่พอเวลาผ่านไปไม่ถึง 5 นาที กลับปวดปัสสาวะอีก ยิ่งไปกว่านั้น หากกระเพาะปัสสาวะอักเสบนาน
ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ พอปัสสาวะว่าหมดแล้ว ทันทีที่ลุกขึ้นมันจะหยดติ๋ง ๆ เลย
เพราะเมื่อเราอั้นปัสสาวะนาน ๆ ปัสสาวะจะถูกดูดซึมย้อนกลับ (Reabsorb) เข้าไปในเส้นเลือดแล้วก็ถูกขับออกมาใหม่ เพราะฉะนั้นจำนวนปัสสาวะออก
มาใหม่เท่าไร ก็ฟ้องว่ามันได้ถูกดูดซึมย้อนกลับเข้าไปอยู่ในเส้นเลือดเท่านั้น
บางคนมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย
ซึ่งเชื้อโรคเหล่านี้พบมากที่ บริเวณทวารหนัก แล้วเกิดการปนเปื้อนเข้าสู่ท่อปัสสาวะจนมาถึงกระเพาะปัสสาวะ
เมื่ออั้นปัสสาวะไว้นาน ๆ เชื้อโรคจึงมีช่วงเวลาในการแบ่งตัวและ เจริญเติบโต
เพิ่มจำนวนขึ้นเป็นอันมาก จนทำให้มีอาการปัสสาวะกะปริบกะปรอย หรือขัดเบา และแสบเวลาถ่ายปัสสาวะ
บางคนอาจมีปัสสาวะขุ่น หรือมีเลือดปน บางคนเชื้อกระจายผ่านท่อไตขึ้นมาที่กรวยไต
ทำให้มีอาการ ไข้สูงหนาวสั่น ปวดที่บริเวณสีข้างด้านที่มีการติดเชื้อ ซึ่งบ่งบอกถึงอันตรายต่อระบบปัสสาวะที่มากขึ้นจนเป็นโรคร้ายแรงขึ้นตามลำดับ
โลหิตพิการ
ปัสสาวะมีคุณสมบัติเป็นกรด
แต่โดยธรรมซาติเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาวรวมทั้งน้ำเหลืองมีคุณสมบัติเป็นด่างอ่อนๆ
ปัสสาวะที่ถูกดูดซึมย้อนกลับ (Reabsorb) เข้าไปในเส้นเลือด จะกลายเป็นกรดขึ้นมา
มีผลให้เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และน้ำเหลืองย่ำแย่ลง ซึ่งมีผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันร่างกายโดยตรง เพราะ เม็ดเลือดขาวคือตัวจับกินเชื้้อโรค โดยมีระบบน้ำเหลืองลำเลียงเม็ดเลือดขาวมาจากไขกระดูกนั่นเองปริมาณปัสสาวะที่ถูกดูด
ซึมย้อนกลับเข้าไปยิ่งมากและนานเท่าใด เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว
และน้ำเหลืองก็จะย่ำแย่ลงเท่านั้น นี่คือสาเหตุที่แท้จริงของโลหิตพิการ
และเม็ดเลือดน้อย
ตับร้อน
ไตร้อน
ตับทำหน้าที่กรองและทำลายสารพิษ
เข่น สารพิษที่ปนเปื้อนในอาหาร ไม่ว่าจะเป็นยาฆ่าแมลง ผงชูรส เป็นต้น มีอะไรแปลกปลอมที่เป็นพิษปนเข้าในร่างกาย
ตับจะกรองและทำลายก่อน ส่วนไตทำหน้าที่ขับของเสีย ที่เป็นผลผลิตจากร่างกาย
และกรองสารพิษที่หลงเหลือ ออกจากเส้นเลือด พูดง่ายๆ ก็คือไตทำหน้าที่กรองโลหิตให้บริสุทธิ์
เมื่ออั้นปัสสาวะนาน
ๆ ปัสสาวะที่ถูกดูดซึมย้อนกลับ เข้าไปในเส้นเลือด ก็กลายเป็นของเสียที่ร่างกายต้อง
ทำลายและขับออก ของเสียในเลือดที่เพิ่มมากขึ้น ตับ ต้องทำงานหนักมากขึ้น ตับจึงร้อน
ไตทำงานหนักมากขึ้น ไตจึงร้อน ยิ่งอั้นป้สสาวะนานเท่าไร ตับและไตต้อง
ทำงานหนักมากขึ้นตามไปเท่านั้น
โรคภูมิแพ้
เมื่ออั้นปัสสาวะนาน
ๆ ปัสสาวะทถูกดูดซึมย้อนกลับเข้าไปในเส้นเลือด กลายเป็นทั้งเนื้อทั้งตัวแช่ปัสสาวะ
แล้วร่างกายจะย่ำแย่ขนาดไหน เนื้อเราก็เช่นกัน แช่อยู่ในปัสสาวะที่ถูกดูดซึม ย้อนกลับเข้าไปในเส้นเลือดนาน
ๆ ปัสสาวะได้ซึมซาบปนเข้าเนื้อของเราเหมือนเนื้อแดดเดียวนั่นเอง
ผลสุดท้ายของเสียในปัสสาวะทำให้ร่างกายของเราทำงานผิดปกติ ลมพิษก็เป็นง่าย สิวก็ขึ้นง่าย
น้ำเหลืองก็เสียง่าย เม็ดผื่นที่สองข้างขาหนีบขึ้นง่าย เป็นภูมิแพ้ บางครั้งยุงกัดก็บวม
บางครั้งกินอาหารทะเลหรือกินอะไรผิดไปหน่อยผื่นเห่อขึ้นมาเชียว บางทีอึดอัดหายใจไม่ค่อยออก
เป็นต้น
เมื่อหลวงพ่อคอยเฝ้าสังเกตก็ทราบถึงสาเหตุว่า
เวลาทายาไปแล้วก็หายได้พักหนึ่ง เมื่อเดินทางแล้วรถไปติดจึงต้องอั้นปัสสาวะ
พอกลับมารู้สึกหน่วง ๆ หน้าท้อง แต่คืนนั้นยังไม่เป็นไร พอข้ามมาอีกคืนเท่านั้น
คันขึ้นมาเลย กว่าจะทราบถึง สาเหตุว่า อาการต่าง ๆ เกิดจากการอั้นปัสสาวะ
ก็เป็นโรคนี้ตั้งแต่อายุประมาณ 20 ปี มาจับทิศได้ถูกทางเมื่ออายุ 40 ปี ทรมานอยู่ 20 ปี เพราะว่าช่วงวัยรุ่นเป็นนักกีฬา
ลงสนามไปแช่งกีฬาตั้งแต่บ่ายโมง กว่าจะออกจากสนามได้ก็ ประมาณ 5 โมงเย็น จึงด้องอั้นปัสสาวะตั้งแต่บ่ายโมงถึงห้าโมงเย็น เข้าสู่วัยผู้ใหญ่ก็ทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำ
และติดนิสัยอั้นปัสสาวะครั้งละนาน ๆ ตังแต่ สมัยวัยรุ่น จึงต้องมาลำบากโดยใช่เหตุเช่นนี้
กลิ่นตัวแรง
เมื่ออั้นปัสสาวะนาน
ๆ ของเสียที่ถูกดูดซึมย้อนกลับเข้าไปในเส้นเลือด กลายเป็นทั้งเนื้อทั้งตัวแช่ปัสสาวะ
ทำให้คนนั้นมี กลิ่นตัวแรง ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ คนอั้นปัสสาวะเหมือนทั้งร่างกายเป็นกระโถน
ใส่ปัสสาวะเคลื่อนที่ได้นั่นเอง
นิ่ว
เมื่ออั้นปัสสาวะนาน
ๆ แคลเซียมที่เป็น ส่วนประกอบในปัสสาวะ จะตกค้างอยู่ใน ระบบทางเดินปัสสาวะ
ผลต่อไปข้างหน้า คือเป็นนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ หรือนิ่วในท่อไต หรือนิ่วในไตก็ได้ ใครที่เคยเทกระโถนให้ผู้เฒ่า
คงจะสังเกตเห็นว่ากระโถนที่ใช้ไม่เกินหนึ่งเดือน ก็จะมีคราบหินปูนเกาะ คราบหินปูนนั้นคือแคลเซียมที่ตกค้างจาก
ปัสสาวะนั่นเอง
กระเพาะปัสสาวะเกร็ง
ใครที่อั้นปัสสาวะไว้บ่อย ๆ กล้ามเนื้อที่กระเพาะปัสสาวะจะเกร็ง เมื่อเกร็งแล้วมันจึงไม่ฟู
ทำให้กระเพาะปัสสาวะหดตัวมีขนาดเล็กลง ความสามารถในการเก็บปัสสาวะของมันก็ลดลง
ก็จะทำให้เราเป็นโรคปวดปัสสาวะบ่อย
วิธีป้องกันก็อย่าไปอั้นปัสสาวะไว้นาน
ๆ และวิธีแกัไขโดยการออกกายบริหารให้มากสักหน่อย จะกระโดดเชือก หรือเตะลม หรือโยคะ
หรืออะไรก็ตามที แต่ต้องทำให้มากพอ อย่างน้อยต้องต่อเนื่องกันไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมง
เมื่อมันคลายเต็มที่แล้ว ความสามารถในการเก็บปัสสาวะ ก็จะกลับคืนมาเก็บปัสสาวะได้มากขึ้นจนเป็นปกติตามเดิม
วิธีที่ได้ผลเร็วมากอีกวิธีหนึ่งคือ หากวันไหนอั้นปัสสาวะนาน ๆ ก่อนนอนให้ใครที่นวดเป็น นวดบริเวณท้องน้อย และบริเวณกระดูกกระเบนเหน็บ (กระดูกที่อยู่ระหว่างก้นทั้งสองข้าง)
จะช่วยให้อาการ เกร็งตัวของกระเพาะปัสสาวะคลายตัวลง
นั่งสมาธิได้ไม่ดี
การอั้นปัสสาวะบ่อย ๆ
คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ได้พูดเตือนหลวงพ่อไว้ว่า
"หลวงพ่อทัตตะ การอั้นปัสสาวะนาน ๆ ต่อไปจะทำให้ปวดปัสสาวะบ่อย แล้วฝึกสมาธิไม่ก้าวหน้า"
คำเตือนของ คุณยายอาจารย์ๆ ย่อมมีนัยว่า ใครที่นั่งสมาธิแล้ว ยังเข้าไม่ถึงองค์พระ
หากยังไม่เลิกอั้นปัสสาวะนาน ๆ ชาตินี้ก็จะเข้าไม่ถึง ที่เข้าถึงแล้วก็จะไม่แตกฉาน
จะไม่ก้าวหน้าต่อไปอีก จะเห็นได้ว่าแค่ไม่ระวังในเรื่องของการอั้นปัสสาวะ
ซึ่งเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แต่ก็เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติธรรมของพวกเราอย่างมหันต์
เมื่อได้รู้จักโทษของการอั้นปัสสาวะแล้ว เราควรต้องศึกษาโทษของการอั้นอุจจาระและวิธีการแก้ไขอาการ ๆ ด้วยตัวเราเอง ซึ่งจะนำเสนอในตอนต่อไป คือ นิสัยการขับถ่ายอุจจาระ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
หนังสือสุขภาพที่ดีคุณทำได้ง่ายๆสบายๆ (สรุปจากธรรมเทศนาของหลวงพ่อทัตตชีโว)
หนังสือสุขภาพที่ดีคุณทำได้ง่ายๆสบายๆ (สรุปจากธรรมเทศนาของหลวงพ่อทัตตชีโว)
ขอบคุณภาพจาก www.pixabay.com