สถานที่เสด็จดับขันธปรินิพพาน เมืองกุสินารา แคว้นมัลละ |
กุสินารา ราชธานีแห่งแคว้นมัลละในครั้งพุทธกาล
คือเมืองที่พระบรมศาสดาเลือกใช้เป็นสถานที่เสด็จมาดับขันธปรินิพพาน
เหตุผลที่ทรงเลือกเมืองนี้ ก็เพราะแคว้นมัลละยุคนั้น อ่อนแอที่สุดในชมพูทวีป
เมื่อพระองค์ทรงปรินิพพานไปแล้ว เวลาแคว้นอื่นมาขอแบ่งพระบรมสารีริกธาตุ แคว้นมัลละย่อมยินดีแบ่งให้โดยง่าย เพราะไม่มีกองกำลังที่มีแสนยานุภาพยิ่งใหญ่พอจะครอบครองไว้เพียงผู้เดียว
แต่หากพระองค์ทรงเลือกเสด็จไปปรินิพพานที่แคว้นใหญ่อย่างเช่น มคธ โกศล วังสะ อวังตี ซึ่งเป็นสี่แคว้นมหาอำนาจของยุคนั้น การปรินิพพานของพระองค์อาจเป็นต้นเหตุให้เกิดสงคราม 16 แคว้น แย่งชิงพระบรมสารีริกธาตุขึ้นมาได้
ขึ้นชื่อว่าสงครามย่อมไร้ความปรานี ไม่ว่าคนชรา เด็ก และสตรีย่อมถูกเข่นฆ่าไม่เว้น
การเลือกปรินิพพานในแคว้นที่อ่อนแอที่สุด จึงเป็นการตัดไฟสงครามแต่ต้นลม เพื่อความปลอดภัยในชีวิตของประชาชน
อีกทั้งการรบกันเองของลูกศิษย์เพื่อแย่งอัฐิของอาจารย์นั้น ย่อมเป็นการทำลายความศักดิ์สิทธิ์ของพระธรรมคำสอนของพระองค์ พระพุทธศาสนาย่อมพลอยอายุสั้นไปด้วย
เราจะเห็นได้ว่าขึ้นชื่อว่า "พระบรมครู" ของชาวพุทธนั้น ทรงกระทำการทุกอย่างด้วยความรอบคอบ แม้แต่การปรินิพพานก็ไม่ทิ้งปัญหาสงครามโลกไว้ข้างหลัง
อันที่จริง แคว้นมัลละในยุคนั้น มีคนเก่งชนิดสะเทือนแผ่นดินอยู่หลายคน แต่ละคนมีความรู้ความสามารถเกินพอจะทำให้แคว้นมัลละกลายเป็นแคว้นที่ยิ่งใหญ่เหมือนในอดีตได้
ท่านแรกคือ พระทัพพมัลลบุตร ผู้เป็นเลิศด้านจัดเตรียมภัตตาหารและเสนาสนะไว้ต้อนรับพระสงฆ์
ท่านที่สองคือ พันธุละ มหาเสนาบดีแห่งแคว้นโกศล ผู้ค้ำจุนราชบัลลังก์และราชอาณาจักรให้แก่พระเจ้าปเสนทิโกศล
ลำพังท่านแรกซึ่งเป็นพระอรหันต์ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ด้วยบุญของท่านเพียงรูปเดียว ก็เกินพอจะทำให้แคว้นมัลละคืนสู่ความยิ่งใหญ่ มีเศรษฐกิจกับจิตใจเจริญรุ่งเรืองไปพร้อมกันได้
ส่วนท่านที่สองนั้น ลำพังชื่อเสียงและผลงานที่ไปปรากฏอยู่ในแคว้นโกศล ก็เกินพอที่จะทำให้แคว้นเล็กๆ อย่างแคว้นมัลละกลายเป็นแคว้นมหาอำนาจได้ไม่ยาก
แต่เพราะสภาพบ้านเมืองในแคว้นมัลละนั้น มีข้อเสียบางอย่างที่ทำให้เกิดการขัดแข้งขัดขากันเอง จนคนเก่งอยู่ได้ยาก หรืออยู่ไม่ได้ หรืออยู่ได้ก็ต้องตกตายกันไปข้างหนึ่ง
ข้อเสียนั้นก็คือ
- หมู่ญาติแตกความสามัคคี แก่งแย่งชิงดี แบ่งฝักแบ่งฝ่าย จ้องจับผิดคิดร้ายต่อกัน
- ชอบใช้ชีวิตฟุ้งเฟ้อสุรุ่ยสุร่าย อวดร่ำอวดรวยว่าใครมีมากกว่ากัน
- ชอบยกตนข่มท่าน กดผู้อื่นให้ต่ำลง
- ชอบสุมหัวนินทา ริษยาใส่ร้าย ไม่อยากเห็นใครดีกว่าพวกตน
- ชอบรวมหัวกลั่นแกล้งคนที่เก่งกว่าจนอยู่ไม่ได้
เมื่อสภาพบ้านเมืองเป็นแบบนี้ คนดีอยู่ยาก คนเก่งอยู่ไม่ได้ จึงเป็นเหตุให้แคว้นมัลละกลายเป็นแคว้นที่อ่อนแอที่สุด
แต่กระนั้นพระพุทธองค์ก็ยังทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ เสด็จไปดับขันธปรินนิพพานและประทานปัจฉิมโอวาทที่แคว้นนี้ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่จะได้เป็นการทำบุญครั้งสุดท้ายกับพระพุทธองค์
- ถือโอกาสเติมบุญให้ชาวเมือง
- ถือโอกาสเติมบุญให้แคว้นมัลละ
ด้วยบุญใหญ่ครั้งสุดท้ายนี้ แคว้นมัลละจะได้รอดพ้นจากการถูกบดขยี้จากแคว้นอื่นๆ แม้ว่าสภาพบ้านเมืองจะตกอยู่ในสภาพอ่อนแอไร้คนเก่งบริหารบ้านเมืองก็ตาม
นี่คือพระบรมครูของชาวพุทธเรา แม้แต่การเลือกสถานที่ปรินิพานก็ยังใช้เติมบุญให้ชาวโลกได้
อีกทั้งยังวางยุทธศาสตร์ป้องกันสงคราม 16 แคว้นชิงพระบรมสารีริกธาตุได้เด็ดขาดตั้งแต่ยังไม่ดับขันธปรินิพพานอีกด้วย
เราชาวพุทธควรภูมิใจที่มีพระสัมมาสัมพุทธเป็นพระบรมครูผู้ชี้ทางอันประเสริฐให้ชีวิตของเรา
--------------------
16 ม.ค. 2563
23.21 น.
ขอบคุณบทความจาก Ptreetep Chinungkuro
https://www.facebook.com/100000564350128/posts/3128248347203946?d=n&sfns=mo
Cr photo : https://youtu.be/mmAzhtgtGNQ
น้อมกราบอนุโมทนาสาธุครับ
ตอบลบน้อมกราบอนุโมทนาสาธุเจ้าค่ะ
ตอบลบสาธุ สาธุ สาธุ
ตอบลบ